ส่งเสริมลูกน้อยอย่างเข้าใจ เพื่อการเติบโตที่พร้อมทั้ง “ชีวิต – การเรียน – จิตใจ”

การส่งเสริมลูกน้อยเริ่มต้นจาก ความเข้าใจ
การส่งเสริมลูกน้อยไม่ได้แปลว่าต้องเร่งเรียนก่อนใคร แต่หมายถึงการเข้าใจธรรมชาติของลูกว่า เขาอยู่ในช่วงวัยที่กำลัง เรียนรู้ผ่านการเล่น มากกว่า เรียนรู้จากตำรา
พ่อแม่สามารถเริ่มส่งเสริมลูกน้อยได้ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ

เช่น ให้ลูกลองเทน้ำใส่แก้วเอง ช่วยหยิบของเข้าที่ หรือฟังนิทานก่อนนอนเพื่อกระตุ้นสมาธิ การส่งเสริมลูกน้อยในรูปแบบนี้ช่วยให้เขารู้สึกว่า ฉันทำได้ และเกิดแรงจูงใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ต่อไปอย่างเป็นธรรมชาติ

ส่งเสริมลูกน้อยด้วยอิสระที่เหมาะสม
อิสระเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมลูกน้อยให้เติบโตอย่างมั่นใจ เด็กที่ได้ลองเลือกด้วยตัวเอง เช่น จะใส่เสื้อสีอะไร จะเล่นของเล่นชิ้นไหน หรือจะวาดรูปแบบไหน มักเป็นเด็กที่รู้จักฟังใจตัวเองและคิดตัดสินใจได้ดีในอนาคต

การส่งเสริมลูกน้อยด้วยอิสระไม่ใช่การปล่อย แต่คือการตั้งขอบเขตที่ปลอดภัย เช่น ให้เล่นน้ำได้ แต่ในอ่างเล็กที่ผู้ใหญ่เห็นตลอดเวลา ให้ลองทำเองแต่พร้อมช่วยเมื่อร้องขอ สิ่งนี้ทำให้ลูกเรียนรู้ความรับผิดชอบ และรู้ว่า อิสระกับความปลอดภัยสามารถอยู่ด้วยกันได้

ส่งเสริมลูกน้อยให้รู้จักเข้าสังคม
เด็กวัย 2-5 ปีเริ่มเข้าสู่ช่วงที่ต้อง อยู่ร่วมกับคนอื่น การส่งเสริมลูกน้อยให้รู้จักเข้าสังคมตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นการฝึกทักษะชีวิตที่สำคัญ
พ่อแม่สามารถเริ่มได้จากกิจกรรมง่าย ๆ เช่น เล่นบทบาทสมมติเป็นคุณครูกับนักเรียน เล่นขายของกับเพื่อนบ้าน หรือพาไปสนามเด็กเล่นให้ได้เจอเพื่อนใหม่

สิ่งเหล่านี้คือการส่งเสริมลูกน้อยให้เข้าใจ กติกาทางสังคม เช่น การรอคิว การขอโทษ การแบ่งปัน ซึ่งจะช่วยให้เขาปรับตัวได้ดีเมื่อเข้าโรงเรียน และมีเพื่อนอย่างมีความสุข

ส่งเสริมลูกน้อยให้ดูแลตัวเองได้ แม้ยังเล็ก
แม้ลูกจะยังอยู่ในวัยอนุบาล แต่การส่งเสริมลูกน้อยให้ดูแลตัวเองได้คือจุดเริ่มต้นของ วินัยและความมั่นใจ เช่น การใส่รองเท้าเอง ล้างมือก่อนกินข้าว เก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จ หรือพูดขอบคุณเมื่อได้รับของ
พ่อแม่อาจรู้สึกว่ามันช้า หรือเลอะเทอะในตอนแรก แต่ในมุมของเด็ก นั่นคือการได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบชีวิตตัวเอง การส่งเสริมลูกน้อยแบบนี้ไม่เพียงสร้างนิสัยดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกเข้าใจว่าความพยายามคือส่วนหนึ่งของการเติบโต

ส่งเสริมลูกน้อยเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเรียนรู้
เมื่อถึงวัยเข้าโรงเรียน เด็กที่ผ่านการส่งเสริมลูกน้อยอย่างเหมาะสมจะมี พื้นฐานของการเรียนรู้ ที่แข็งแรง ทั้งด้านอารมณ์ สมาธิ และความคิด
การส่งเสริมลูกน้อยในช่วงนี้ไม่จำเป็นต้องเร่งให้ท่อง กฮ หรือบวกเลข แต่ควรเน้นพัฒนาทักษะ EF (Executive Function)

เช่น การฟังคำสั่ง การจดจ่อ การแก้ปัญหา และการคิดยืดหยุ่น
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้เร็วขึ้นในอนาคต เพราะมีเครื่องมือทางใจที่พร้อมรับสิ่งใหม่ ๆ ด้วยความสุขและความมั่นใจ

Kids Plus เชื่อในพลังของการส่งเสริมลูกน้อยอย่างเข้าใจ
เพราะKids Plus เชื่อว่าการส่งเสริมลูกน้อยคือการทำความเข้าใจลูกน้อย และส่งเสริมทักษะ รวมถึงความรู้ต่าง ๆ ให้ตรงจังหวะวัยของแต่ละคน ผ่านกิจกรรมที่ออกแบบให้เหมาะกับพัฒนาการจริงของเด็กแต่ละวัย

ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Kids Plus ทั้งนักกิจกรรมบำบัดและนักพัฒนาการเด็กจะช่วยประเมินจุดแข็ง จุดที่ควรกระตุ้น และออกแบบกิจกรรมให้ลูกได้เรียนรู้ผ่านการเล่นอย่างมีความหมาย
เพราะการส่งเสริมลูกน้อยที่ดีที่สุดไม่ใช่ทำให้เขาเก่งกว่าใคร แต่คือการทำให้เขา รักในสิ่งที่เรียนรู้ และ เติบโตอย่างมั่นใจในแบบของตัวเอง